การต่อต้านการฟอกเงิน

 

บทนำ

นโยบายการต่อต้านการฟอกเงินนี้ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า "นโยบาย") มีวัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้มีกิจกรรมการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือกิจกรรมการฉ้อโกงหรือที่ผิดกฎหมายใด ๆ ใน WhiteBox B.V ในนโยบายนี้ คุณสามารถอ่านสิ่งที่บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายการต่อต้านการฟอกเงินปัจจุบัน และมาตรการเหล่านี้มีผลกระทบอย่างไรกับคุณในฐานะผู้ใช้ vulkanvegas.com (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า "เว็บไซต์") บริษัทมีสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขนโยบายนี้ คุณมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบนโยบายนี้เป็นครั้งคราวเพื่อเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงที่มีผลบังคับใช้ โดยการใช้เว็บไซต์นี้ต่อไปหลังจากที่การเปลี่ยนแปลงมีผลบังคับใช้ จะถือว่าคุณให้ความเห็นชอบกับนโยบายที่มีการแก้ไข

 

1. วิธีการปฏิบัติตามนโยบายนี้

บริษัทบังคับใช้โปรแกรมการต่อต้านการฟอกเงินในสถานการณ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:

·       บริษัทสามารถขอให้มีการยืนยันตัวตนลูกค้า (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า "ผู้ใช้หลายคน" หรือ "ผู้ใช้") ของเว็บไซต์

·       บริษัทใช้หมวดหมู่ความเสี่ยงที่จัดทำขึ้นโดยคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (Financial Action Task Force: FATF) เพื่อประเมินว่าผู้ใช้มีความเสี่ยงในการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือกิจกรรมอื่นใดที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องห้ามไว้หรือไม่

·       บริษัทจะตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดที่มาจากผู้ใช้ผ่านเว็บไวต์อย่างสม่ำเสมอ

·       บริษัทบังคับใช้การอบรมให้กับพนักงานของตนเพื่อคอยติดตามวิธีการแก้ไขที่ทันสมัยเพื่อต่อสู้กับการฟอกเงิน

 

2. หมวดหมู่ความเสี่ยง

บริษัทใช้วิธีการหมวดหมู่ความเสี่ยงที่จัดทำขึ้นโดย FATF และ GCB เพื่อกำหนดว่าผู้ใช้มีความเสี่ยงในการเกี่ยวข้องในคดีฟอกเงินใด ๆ หรือไม่

หมวดหมู่ความเสี่ยงเหล่านี้คือ:

2.1 ความเสี่ยงระดับประเทศ/ภูมิศาสตร์

เมื่อผู้ใช้ลงทะเบียนบัญชีกับเว็บไซต์ สถานที่อยู่/ภูมิลำเนาของผู้ใช้ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า "เขตอำนาจศาล") จะต้องได้รับการพิจารณาเป็นอย่างแรก ในขั้นตอนแรก บริษัทจะตรวจสอบว่าเขตอำนาจศาลนั้นอยู่ในรายชื่อ "ประเทศที่สามที่มีความสุ่มเสี่ยงสูงที่มีข้อบกพร่องทางยุทธศาสตร์" ของคณะกรรมาธิการยุโรปหรือไม่ (ดู "แหล่งที่มา") จากนั้น บริษัทจะตรวจสอบว่าเขตอำนาจศาลนั้นปรากฏอยู่ในรายชื่อเขตอำนาจศาลที่มีความเสี่ยงสูงหรือที่ถูกตรวจสอบของ FATF หรือไม่ นอกจากนี้ บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเขตอำนาจศาลนั้นด้วยตนเองตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้:

·       สภาพแวดล้อมทางกฎหมาย

·       สภาพแวดล้อมทางการเมือง

·       โครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ

·       ปัจจัยทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของสังคมพลเมือง

·       แหล่งที่มา สถานที่ จำนวนกิจกรรมทางอาชญากรรม (ถ้ามี)

 

2.2 ความเสี่ยงของผู้ใช้

บริษัทจะตรวจสอบกิจกรรมของผู้ใช้แต่ละคนในเว็บไซต์เพื่อดูว่ามีหรือไม่มีปัจจัยหนึ่งหรือหลายปัจจัยจะที่เป็นเหตุให้ผู้ใช้รายนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “เสี่ยงสูง” ได้หรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้คือ:

ก) เป็นผู้ใช้จ่ายเงินจำนวนมากหรือสูง (หรือเป็นผู้ใช้จ่ายเงินอย่างมหาศาลในตลาดนี้)

ข) กิจกรรมของผู้ใช้เป็นที่น่าสงสัย (กิจกรรมที่น่าสงสัย การใช้อุปกรณ์หลายเครื่องเพื่อทำการอนุมัติบนเว็บไซต์ในกรอบระยะเวลาอันสั้น การใช้หมายเลข IP เดียวกันโดยผู้ใช้หลายคน การใช้อุปกรณ์ของผู้ใช้โดยผู้ใช้รายอื่นของเว็บไซต์)

ค) หรือหากผู้ใช้ผู้ต้องสงสัยเป็นบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (Politically Exposed Person: PEP) ในความหมายของคำสั่งสหภาพยุโรป 2015/849 และคณะมนตรี

2.3 ความเสี่ยงของธุรกรรม

บริษัทจะพยายามกำจัดความเสี่ยงธุรกรรมใด ๆ ที่ FATF ระบุไว้:

ก) บริษัทจะไม่ยอมรับการทำธุกรรมจากช่องทางการชำระเงินที่ไม่ระบุชื่อ

ข) บริษัทจะไม่อนุญาตให้มีการโอนเงินจากบัญชีผู้ใช้คนหนึ่งไปยังบัญชีผู้ใช้อีกคนหนึ่ง

ค) บริษัทจะไม่ยอมรับเงินสดจากผู้ใช้

ง) บริษัทจะยอมรับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาตรฐานจากเขตอำนาจศาลที่มีชื่อเสียงในทางที่ดีเท่านั้น

จ) บริษัทจะไม่อนุญาตให้มีบัญชีเพิ่มเติมและไม่ยอมรับช่องทางการชำระเงินที่ไม่ใช่ของผู้ใช้

2.4 ความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์

บริษัทจะพิจารณาประเภทของผลิตภัณฑ์ที่มีและขอบเขตที่ลักษณะของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอาจถูกนำไปใช้กับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงินหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นธุรกรรมขนาดใหญ่ ที่รวดเร็วหรือไม่ระบุชื่อ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นการจัดทำขึ้นจะถูกจัดว่ามีความเสี่ยงสูงและเป้นไปตามการควบคุมที่เข้มงวดยิ่งขึ้น

 

3. การยืนยันตัวตน

บริษัทอาจขอให้มีการยืนยันตัวตนผู้ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:

ก) เมื่อจำนวนธุรกรรมทั้งหมดของผู้ใช้ถึงหรือเกินเกณฑ์

ข) หากการประเมินความเสี่ยงบอกว่าผู้ใช้คนดังกล่าวถือว่าอยู่ในหมวดหมู่มีความเสี่ยงสูง (ดูส่วน "หมวดหมู่ความเสี่ยง")

ค) หากมีการตรวจพบกิจกรรมที่น่าสงสัย รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงพฤติกรรมที่ถือว่าเป็นกิจกรรมที่มีโอกาสในการฉ้อโกง การนำบัญชีไปใช้ในทางที่ผิด หรือการละเมิดข้อกำหนดและเงื่อนไขของเว็บไซต์ นโยบายความเป็นส่วนตัวและกฎระเบียบที่บังคับใช้อื่น ๆ

ง) ในสถานการณ์อื่นใดที่บริษัทถือว่าเป็นความจำเป็นต้องทำการยืนยันตัวตน รวมถึงข้อกำหนดในการปฏิบัติตามกฎหมาย การบรรเทาความเสี่ยงหรือขั้นตอนการตรวจสอบความรอบคอบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น (Enhanced Due Diligence: EDD)

ในช่วงที่มีการยืนยันตัวตนผู้ใช้ บริษัทจะขอเอกสารดังต่อไปนี้จากผู้ใช้:

·       สำเนาหรือรูปถ่ายของเอกสารยืนยันตัวตนของผู้ใช้

·       รูปถ่ายของบัตรชำระเงินที่ได้ใช้หรือตั้งใจที่จะใช้ในการฝากเงินบนเว็บไซต์ สิ่งสำคัญคือชื่อผู้ถือบัตรจะต้องตรงกับชื่อของผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตน ผู้ใช้สามารถซ่อนหรือปิดบังรหัส CVV และหมายเลขบัตรชำระเงินได้ (ยกเว้นตัวเลขหกหลักแรกและสี่หลักสุดท้าย) จะต้องไม่ซ่อนหรือปิดบังชื่อของผู้ถือบัตรในลักษณะใด ๆ ก็ตาม

·       รูปภาพของผู้ใช้ที่กำลังถือรายการเอกสารที่มีการร้องขอสำหรับขั้นตอนการยืนยันตัวตน (อาจจะพร้อมกับข้อมูลที่ร้องขอ ที่เขียนด้วยลายมือ (อีเมลของผู้ใช้ที่ใช้เมื่อลงทะเบียนบัญชี วันที่ที่ร้องขอรูปภาพและรหัสยืนยัน)

·       บันทึกรายการเคลื่อนไหวของบัญชีชนาคาร จดหมายจากสถานที่ปฏิบัติงานหรือจากที่ทำงานของผู้ใช้ และใบกำกับภาษี ถ้ามี

·       การยืนยันที่อยู่ ถ้ามี อาจจะเป็นบิลค่าสาธารณูปโภค บิลค่าโทรศัพท์ หรือเอกสารอื่น ๆ ตามข้อกำหนดทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของเขตอำนาจศาลนั้นที่เพียงพอจะยืนยันที่อยู่ของคุณผู้ใช้

·       เอกสารหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่อาจจำเป็นตามสถานการณ์

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการขอให้มีการสัมภาษณ์ทางวิดีโอกับผู้ใช้เพื่อที่จะยืนยันข้อมูล

 

3.1 การยืนยันตัวตนเพิ่มเติม

บริษัทอาจดำเนินขั้นตอนการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมในสถานการณ์ต่อไปนี้:

ก) ผู้ใช้อยู่ในคำจำกัดความของบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (Politically Exposed Person: PEP) บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เป็นหรือได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สาธารณะที่โดดเด่นและรวมถึง: (ก) หัวหน้ารัฐบาล หัวหน้ารัฐ รัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการหรือรัฐมนตรีช่วยว่าการ (ข) สมาชิกรัฐสภาหรือสภานิติบัญญัติที่คล้ายคลึงกัน (ค) สมาชิกคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง (ง) สมาชิกศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรตุลาการระดับสูงอื่น ๆ ซึ่งคำตัดสินของศาลเหล่านี้ไม่อาจอุทธรณ์ได้อีก ยกเว้นในสถานการณ์พิเศษ (จ) สมาชิกศาลผู้ตรวจสอบบัญชีหรือคณะกรรมการธนาคารกลาง (ฉ) เอกอัครราชทูต อุปทูต และเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพ (ช) สมาชิกหน่วยงานบริหาร จัดการ หรือกำกับดูแลของรัฐวิสาหกิจ และ (ซ) กรรมการ รองกรรมการ และสมาชิกขององค์กรระหว่างประเทศหรือตำแหน่งเทียบเท่า

ข) หากประเทศที่พำนักของผู้ใช้ถูกกำหนดโดยคณะกรรมาธิการยุโรปให้เป็น "ประเทศที่สามที่มีข้อบกพร่องเชิงกลยุทธ์" หรืออยู่ในรายชื่อของ FATF "เขตอำนาจศาลที่มีความเสี่ยงสูงและเขตอำนาจศาลที่ถูกตรวจสอบอื่น ๆ"

ค) ในกรณีอื่น ๆ เมื่อจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนตามกฎหมายหรือตามคำร้องจากหน่วยงานที่มีอำนาจ สถาบันการเงิน ฯลฯ

นอกจากการยืนยันตัวตนตามมาตรฐาน เมื่อมีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติม บริษัทจำเป็นต้องส่งเอกสาร (ซึ่งอาจจะมีหลายอย่าง) หรือข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของรายได้ของผู้ใช้ตามข้อกำหนดทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของประเทศของผู้ใช้รายนั้น ในกรณีที่มีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติม การอนุมัติขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการยืนยันตัวตนจะต้องดำเนินการโดยผู้บริหารระดับอาวุโสของบริษัท

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการรวบรวมข้อมูลระบุตัวตนเพิ่มเติมของผู้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของนโยบายนี้ นอกจากนี้ หาก ก) ผู้ใช้ปฏิเสธที่จะดำเนินการยืนยันตัวตน และ/หรือ ข) บริษัทมีเหตุผลอันสมควรให้สงสัยว่าผู้ใช้กำลังใช้บริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมาย และผู้ใช้ไม่ได้ให้หลักฐานแย้ง บริษัทอาจแจ้งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้ นอกจากนี้ บริษัทอาจระงับบัญชีผู้ใช้ดังกล่าวจนกว่าผู้ใช้จะผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนหรือให้เอกสาร (ซึ่งอาจมีหลายอย่าง) หรือข้อมูลที่บริษัทร้องขอ

 

 

 

4. ระยะเวลาการเก็บบันทึก

บริษัทจะเก็บบันทึกข้อมูลการยืนยันตัวตนของผู้ใช้เว็บไซต์พร้อมกับข้อมูลธุรกรรม (ประวัติธุรกรรมและหลักฐานสนับสนุนิธุรกรรม) เอาไว้ในรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่ายเป็นระยะเวลา 5 (ห้า) ปี กรุณาตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เว็บไซต์

 

5. การตรวจสอบกิจกรรม

บริษัทจะตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดของผู้ใช้อยู่เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมเหล่านั้นเป็นไปตามข้อกำหนด

ในกรณีที่เป็นธุรกรรมทางธนาคารหรือธุรกรรมจากบัตรธนาคาร ชื่อบัญชี/ชื่อผู้ถือบัตรจะต้องตรงกันกับที่ระบุไว้ ณ เวลาที่ทำการลงทะเบียน (หรือหากมีการเปลี่ยนชื่อ ชื่อปัจจุบันจะต้องแสดงอยู่ในบัญชีของผู้ใช้)

หากมีการฝากเงินจากช่องทางการชำระเงินที่ไม่สามารถถอนเงินได้ ให้ทำการถอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของผู้ใช้ หรือช่องทางการชำระเงินอื่นซึ่งจะสามารถยืนยันได้อย่างน่าเชื่อถือว่าเป็นช่องทางการชำระเงินของผู้ใช้รายดังกล่าวจริง ๆ

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการขอเอกสารยืนยันตัวตยเพิ่มเติม (ตัวอย่างเช่น หลักฐานการเป็นเจ้าของบัญชี แหล่งที่มาของเงิน) หากพบว่ามีความคลาดเคลื่อน รูปแบบที่ไม่ปกติหรือมีเป็นไปได้ที่จะมีความเสี่ยง

บริษัทจะตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดของผู้ใช้อยู่เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมเหล่านั้นไม่ใช่การฟอกเงิน วิธีการเหล่านี้คือ:

 

การนำเงินเข้าระบบ

ในขั้นตอนนี้ เงินจะถูกแปลงเป็นตราสารทางการเงินอื่น ๆ เช่น บัญชีธนาคาร เช็ค การโอนเงินหรือใช้เพื่อซื้อสินค้าราคาแพงซึ่งสามารถขายต่อได้ในภายหลัง ทุนที่สามารถลงทุนได้ในธนาคารและสถาบันอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ธนาคาร (ตัวอย่างเช่น สถาบันแลกเปลี่ยนเงินตรา) เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัยใด ๆ จากทางด้านของบริษัท หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินอาจดำเนินการนำเงินเข้าระบบหลายครั้งแทนที่จะนำยอดรวมทั้งหมดเข้าในคราวเดียว การนำเงินเข้าระบบนี้รู้จักกันในชื่อ "การแบ่งเงิน" หรือ "การฟอกเงิน"

 

การปกปิด

เงินทุนจะถูกโอนหรือย้ายไปยังบัญชีหรือตราสารทางการเงินอื่น ๆ ขั้นตอนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อปกปิดแหล่งที่มาดั้งเดิมของเงินและป้องกันการระบุตัวตนบุคคลที่ดำเนินการทางการเงินจำนวนมาก การเคลื่อนย้ายเงินและเปลี่ยนรูปแบบของเงินนั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบเงินเป็นเรื่องยุ่งยาก

 

การนำกลับมาใช้

จะมีการนำเงินกลับเข้าสู่ระบบการเงินภายใต้การปลอมแปลงเงินทุนที่ได้รับมาอย่างถูกกฎหมาย โดยมีจุดประสงค์สุดท้ายในการนำระบบการเงินดังกล่าวกลับมาใช้ในภายหลัง

 

 

5.1 การป้องกันกิจกรรมที่น่าสงสัย

การดำเนินการทั้งหมดเกี่ยวกับการฝากเงินจะต้องได้รับการตรวจสอบที่เรียกว่า "ความเหมาะสมของบัตร" (การใช้บัตรหลายใบผ่านตัวแทนชำระเงินที่แตกต่างกันซึ่งบริษัทมีให้บริการ การได้รับรหัสข้อผิดพลาดเฉพาะเมื่อทำการชำระเงิน การใช้บัตรที่ออกโดยผู้ส่งเงินที่แตกต่าง ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคที่แตกต่างกัน), การใช้ตราสารชำระเงินที่แตกต่างกันภายในระยะเวลาอันสั้น (บัตร, กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์, การทำธุรกรรมทางธนาคาร), การต่อต้านหรือไม่เต็มใจของผู้ใช้ในการตรวจสอบตราสารชำระเงินใด ๆ, ความไม่ตรงกันของตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ขององค์ประกอบสำคัญของผู้ใช้ (สัญชาติ/ถิ่นที่อยู่, ผู้ให้บริการมือถือ, ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของหมายเลข IP, หมายเลข BIN ของบัตร เป็นต้น), การคัดค้านหลักการผ่านโทรศัพท์หรือวิดีโอใดๆ ผู้ใช้ไม่ได้ให้รูปถ่ายของเขา/เธอพร้อมเอกสารยืนยันตัวตนในมือ (ตามคำขอ), การจับคู่ ID อุปกรณ์ของผู้ใช้ (โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต) กับ ID อุปกรณ์ของบัญชีอื่นในระบบของเรา

 

6. การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับขั้นตอน AML ในปัจจุบัน

เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อธุรกรรมการฝากเงินและถอนเงินของผู้ใช้ รวมถึงฝ่ายการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่รับผิดชอบในการตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตนจะตรวจสอบกฎหมายและแนวปฏิบัติที่บังคับใช้ขององค์กรระหว่างประเทศเพื่อหาการเปลี่ยนแปลงใด ๆ และตรวจสอบสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและแนวปฏิบัติของพันธมิตรของเราและองค์กรอื่น ๆ ซึ่งมีส่วนร่วมในการต่อต้านการฟอกเงินอย่างต่อเนื่อง บริษัทจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมและแก้ไขกฎระเบียบปฏิบัติภายในเป็นระยะ ๆ โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้ในคำแนะนำของ FATF และหลักปฏิบัติ "บิ๊กโฟร์" ทุก ๆ สามเดือน บริษัทจะดำเนินการรับรองพนักงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความรู้และความสามารถที่จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอน CTF / AML / KYC และหลักปฏิบัติที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ และนอกจากนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความรู้กฎหมายปัจจุบันในภาคสนาม

 

7. เอกสารอ้างอิง

ที่นี่คุณสามารถพบกับรายการแหล่งที่มา (แต่ไม่จำกัด) สำหรับนโยบายนี้ อาจมีการบังคับใช้กฎหมายหรือเอกสารเพิ่มเติม

1.       ข้อแนะนำสี่สิบข้อพิเศษเรื่องการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ("ข้อแนะนำ FATF")

2.       คำแนะนำวิธีการแก้ไขตามความเสี่ยงสำหรับคาสิโน (Risk-Based Approach: RBA) ที่ออกโดย FATF

3.       คำสั่ง 2015/849 ของสหภาพยุโรปและคณะมนตรี ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2015 ว่าด้วยการป้องกันการใช้ระบบการเงินเพื่อจุดประสงค์ในการฟอกเงินหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย

4.       กฎหมายลำดับรองของคณะกรรมาธิการ (EU) 2016/1675 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2016 เพิ่มเติมจากคำสั่ง (EU) 2015/849 ของรัฐสภายุโรปและคณะมนตรีโดยการระบุประเทศที่สามที่มีความเสี่ยงสูงที่มีข้อบกพร่องทางยุทธศาสตร์

5.       กฎหมายการแก้ไขการป้องกันและปราบปรามกิจกรรมการฟอกเงิน 13(Ι) of 2018 ของสาธารณรัฐไซปรัส

6.       คณะกรรมการควบคุมการพนันคูราเซา กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การสนับสนุนเงินทุนแก่การก่อการร้ายและการแพร่กระจายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง การอัปเดตล่าสุดเดือนมกราคม 2025

7.       รายชื่อเขตอำนาจศาลที่มีความเสี่ยงสูงและเขตอำนาจศาลอื่น ๆ ที่ได้รับการตรวจสอบ: http://www.fatf-gafi.org/countries/#high-risk

reportservice pixel image